Friday, February 22, 2013

เทคนิคการประหยัดน้ำมันและยืดอายุรถ


-    
        -   ตรวจสภาพรถให้สมบูรณ์อยู่เสมอ
-       -    เติมลมยางให้ได้ตามค่ากำหนดและหมั่นตรวจสอบทุก 2 สัปดาห์
-        -   ตรวนสอบศูนย์ล้อให้ถูกต้องอยู่เสมอ ล้อไม่ได้ศูนย์ ยางจะสึกหรอเร็ว ทำให้เพิ่มภาระเครื่องยนต์และสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น
-       -    ไม่เร่งเครื่องอยู่กับที่ ไม่ติดเครื่องเดินเบาทิ้งไว้นานๆ
-       -    ใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็ว อย่าเปลี่ยนเกียร์สูงในรอบต่ำ และไม่เลี้ยงคลัตช์ หรือเบรก
-       -    ไม่บรรทุกสัมภาระ ที่ไม่จำเป็น หมั่นล้างท้องรถเพื่อกำจัดโคลนที่หนัก และก่อสนิม

Friday, February 15, 2013

ตารางการดูแลรักษารถตามระยะแบบย่อ


รายการ
ระยะทาง/ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยน
ชนิด
น้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง
ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือ 12 เดือน
เลือกใช้ชนิดของน้ำมันที่ระบุใน “คู่มือการใช้รถ” ไส้กรองน้ำมันเครื่องแท้ ของโตโยต้า
น้ำยาหล่อเย็น
เปลี่ยนครั้งแรกที่ 160,000 กิโลเมตร จากนั้นทุกๆ 80,000 กิโลเมตร (ยกเว้นรุ่น Avanza เปลี่ยนทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ 24 เดือน)
น้ำยาหล่อเย็น SLLC แท้ของโตโยต้า
น้ำมันเกียร์ธรรมดา
ตรวจสอบตามระยะ / เปลี่ยนเฉพาะเมื่อจำเป็น (ยกเว้นรุ่น Avanza เปลี่ยนทุกๆ 80,000 กิโลเมตร หรือ 96 เดือน)
น้ำมันเกียร์ธรรมดา เกรด API GL-4 หรือ 5 (SAE 75W-90)
น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
ตรวจสอบตามระยะ / เปลี่ยนเฉพาะเมื่อจำเป็น (ยกเว้นรุ่น Avanza เปลี่ยนทุกๆ 80,000 กิโลเมตร หรือ 48 เดือน)
น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ATF WS ของแท้ของโตโยต้า (ยกเว้นรุ่น Avanza ใช้เกรด ATF Type T-IV)
น้ำมันเกีนร์ CVT
ตรวจสอบตามระยะ / เปลี่ยนเฉพาะเมื่อจำเป็น
น้ำมันเกียร์ CVTF TC ของแท้ของโตโยต้า (เฉพาะรุ่น Corolla เกียร์ CVT)
น้ำมันเบรก
ทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ 24 เดือน
น้ำมันเบรกเกรด SAEJ 1703 หรือ FMVRR No.116 DOT 3
กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
ทุก ๆ 80,000 กิโลเมตร หรือ 96 เดือน
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแท้ของโตโยต้า
ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์ ไส้กรองเครื่องปรับอากาศ(เฉพาะรุ่นที่มี)
ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ 48 เดือน ทุกๆ 30,000 กิโลเมตร
**สำหรับรถที่ใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก ควรตรวจสอบสภาพไส้กรอง ที่ประมาณ 15,000 กิโลเมตร
ไส้กรองอากาศแท้ของโตโยต้า
ไส้กรองเครื่องปรับอากาศแท้ของโตโยต้า
ไส้กรองก๊าซ (เฉพาะรุ่น Corolla CNG)
ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร
ไส้กรองก๊าซแท้ของโตโยต้า
** หมายเหตุ : การตรวจสอบตามระยะครั้งแรกที่ 1,000 กิโลเมตรนั้น เป็นการตรวจเช็คเพื่อความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดของท่านเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองแต่อย่างใด

Saturday, February 9, 2013

เสียงลม ที่เกิดขึ้นขณะขับขี่

ขณะที่เราขับขี่ โดยเฉพาะถ้าเราขับขี่ด้วยความเร็วสูง เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดเสียงลม ซึ่งเกิดจากการปะทะกับตัวรถ ความดังนั้นจะขึ้นอยู่กับความเร็วของรถ รวมถึงความเร็วของลมและทิศทางของลมที่ในขณะนั้นๆ อย่างไรก็ดี ถ้าหากมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมบนตัวรถ เช่น หลังคา หรือแผงบังแดด ด้านข้าง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดเสียงดัง เพิ่มมากขึ้นได้อีกเช่นเดียวกัน

อาการเสียงดังเมื่อสตาร์ทและดับเครื่อง

อาการเสียงดัง เมื่อสตาร์ทเครื่อง และดับเครื่อง

หลายๆ คนอาจจะเกิดอาการตกใจ เมื่อเราสตาร์ทเครื่อง หรือ ดับเครื่อง แล้วได้ยินเสียงดัง ไม่ต้องตกใจนะครับ จากการอ่านคู่มือ ของรถยนต์ VIOS TRD Sportivo
-เสียงดังฟิ้วว จากด้านหน้ารถขณะที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ และออกตัว เกิดจากการทำงานของแอ็คซิวเอเตอร์หรือเสียงมอเตอร์ของระบบเบรก ABS กำลังตรวจสอบระบบ ถือเป็นปกติ
-เสียงเคาะใต้ท้องรถขณะดับเครื่องจอด เกิดจากการทำงานของ Catalytic Converter ในชุดท่อไอเสีย เมื่ออุณภูมิลดลง

สองกรณีนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น เมื่อมีเสียงที่เกิดขั้นเหมือนกับกรณีที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ถือเป็นเรื่องปกตินะครับ  แต่ถ้ามีเสียงที่แปลกไปจากกรณี ก็ให้ตรวจเช็ค ว่าสาเหตุ เกิดมาจากอะไร เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง

Friday, February 8, 2013

การทำงานของระบบเบรค ABS

ใช้งานรถยนต์ที่มีระบบเบรค ABS ทั้งที เราต้องมาทำความเข้าใจกันซักหน่อย ว่าไอ้ระบบเบรค ABS นี้มันจะมาช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้เราอย่างไร มีหลักการทำงานอย่างไร และถ้าไม่มีระบบเบรค ABS จะเป็นอย่างไร
Anti-Lock Brake System
ปัจจุบันในการผลิตรถยนต์ มีการนำระบบเบรก ABS เข้ามาเป็นส่วนประกอบเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ABS หรือ Anti-Lock Brake System ก็คือระบบที่ป้องกันล้อล็อก เมื่อเราทำการเบรก
    จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า เวลาที่เราเบรกแล้ว ล้อล็อค กับล้อไม่ล็อค แตกต่างกันอย่างไร  อธิบายได้ง่ายๆ ก็คือ เมื่อเราเบรกแล้ว ถ้าเกิดล้อล็อคขึ้นมา ก็คือล้อจะหยุดหมุน ทำให้ล้อไถลไปกับถนน เราจะไม่สามารถควบคุมรถยนต์ได้ เหมือนกันเวลาที่เราลื่นนั่นเอง  แต่ถ้ามีระบบ ABS ล้อจะไม่ล็อก เมื่อเราเบรกรถยนต์ ล้อจะค่อยๆ หยุดหมุน น้องจากจะทำให้เราสามารถควบคุมทิศทางรถต่อไปได้แล้ว ยังช่วยให้ระยะเบรกสั้นลงได้อีกด้วย
ABS  (Anti-Lock Brake System)
เบรก ABS
ขณะที่เราทำการเบรกกะทันหัน อาจมีเสียงดัง และอาการสั่นที่แป้นเบรก แสดงว่าระบบ ABS กำลังทำงาน ตั้งสติและเหยียบเบรกให้มั่นคง เพื่อรักษาประสิทธิภาพของการเบรก และป้องกันไม่ให้ล้อล็อกรวมถึงสามารถควบคุมรถให้ขับขี่ต่อไปได้  จากตัวอย่างภาพประกอบ จะพบว่ารถยนต์ที่มี ABS เมื่อทำการเบรค เราจะยังสามารถควบคุมรถยนต์ได้ จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้เราได้นั่นเอง

VIOS TRD Sportivo มีสีอะไรบ้าง ?

ส่วนมาก ที่เห็นๆ กันสำหรับรถยนต์ TOYOTA VIOS TRD Sportivo มักจะเห็นสีขาวมากกว่า แล้วสีอื่นมีหรือไม่ ? คำตอบก็คือ สำหรับรุ่นพิเศษนี้ จะมีทั้งหมดสองสี คือ สีขาว Super White และสีดำ Attitude Black Mica

สำดำ Attitude Black Mica

สีขาว Super White

การตกแต่งภายในของ VIOS TRD Sportivo

การตกแต่งภายในของ TOYOTA VIOS TRD Sportivo ภายในดีไซน์สปอร์ตทูโทน แต่งด้วยลายเคฟลาสีส้ม-ดำ
ภายในดีไซน์สปอร์ตทูโทน ตกแต่งด้วยลายเคฟลาสีส้ม

เบาะหนัง และผ้าทูโทนพร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo

เครื่องเสียง 2 DIN / DVD / CD / MP3 / WMA หน้าจอระบบสัมผัส 
พร้อมช่องต่อ USB / AUX / SD- Card

หัวเกียร์หุ้มหนังตะเข็บสีส้ม

พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์สปอร์ต ตะเข็บสีส้ม

สวิตซ์เปิด - ปิด ไฟตัดหมอก อยู่ข้างเบรคมือ

พรมปูพื้น พร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo

การตกแต่งภายนอกของ VIOS TRD Sportivo

การตกแต่งภายนอกของ Toyota VIOS TRD Sportivo มีดังนี้
- สเกิร์ตหน้า ชุดไฟหน้า และกระจังหน้า แบบ Smoked Chrome
- สเกิร์ตด้านข้าง
- สเกิร์ตด้านหลัง
- ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่
- ฝาครอบท่อไอเสียสแตนเลส
- ล้ออัลลอยรมดำลายใหม่ ขนาด 15 นิ้ว
- สัญลักษณ์ TRD Sportivo
- สติ๊กเกอร์ข้าง TRD Sportivo

Tuesday, February 5, 2013

ประสบการณ์ ขับ VIOS TRD Sportivo ขึ้นภูเขา

ประสบการณ์ขับน้องออส ( VIOS TRD Sportivo ) ขึ้นภูเขา นับว่า เป็นประสบการณ์ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยลองขับขึ้น สำหรับรถรุ่นนี้ ในการขับขึ้นภูเขานั่น้อง ครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการขับขึ้นภูเขา ที่ไม่สูงมาก เรียกได้ว่าอยู่ในระดับกลางๆ ผมขับขึ้นไปที่หอส่องดาว อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร  บริเวณภูเขาที่นี่ เป็นอุทยานเป็นชาติ ชื่อ "ภูผาเหล็ก" เทือกเขาภูพาน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 622 เมตร
การขับขึ้น ค่อยข้างง่าย ไม่สะดุด สามารถขับขึ้นด้วยเกียร์ D-3 สบายๆ เครื่อง ก็ยังไม่ร้อนมาก การเข้าโค้งบนทางชัน สามารถยึดเกาะถนนได้ดี แม่นยำ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด   การขึ้นภูเขาด้วยน้องออส จึงสบายใจหายห่วง ใครที่มีโอกาสได้ขับน้องออสขึ้นเขา ก็อย่าลืมเอามาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ