ชำระค่างวด โตโยต้าลิสซิง ผ่าน SCB Easy Net กันเถอะ

ปัญหาหนึ่งของผู้ให้งานรถยนต์ อย่างเช่นตัวผมเองก็เจอมาประจำ เมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายค่างวดรถประจำเดือน จะต้องนำบัตร ไปชำระที่เคาท์เตอร์เซอร์วิส หรือไม่ก็จุดบริการชำระค่างวดต่างๆ ที่ระบุไว้ในคู่มือ
เมื่อก่อนผมเองก็ต้องเสียเวลาไปจ่ายๆบ่อยๆ ก็เลยจะเอาประสบการณ์มาเล่าแนวทางคร่าวๆ ว่าแชร์
อีกช่อทางหนึ่งที่ผมเปลี่ยนมาใช่ก็คือ เปลี่ยนมาจ่ายออนไลน์ผ่าน  SCB Easy Net แทน นับว่าสะดวกมาก จ่ายวันไหน จ่ายตอนไหน หรือจะตั้งเวลาจ่ายล่วงหน้าก็ยังได้
นับว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลา หรืออาจจะเผลอลืมไปจ่าย จนต้องยุ่งยากเสียเวลา เสียเครดิต เสียหายไปมากกว่าเดิม

ข้อดีของการจ่านออนไลน์คือ
  - จ่ายที่ไหนก็ได้ ขอแค่เรามีอินเทอร์เน็ต
  - จ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ ขอแค่ในบัญชีของเรามีเงินอยู่พอจ่าย
  - ไม่ต้องเสียเวลาไปรอคิว หรือ เดินทางเสียค่าน้ำมูกน้ำมัน
  - ตั้งเวลาจ่ายอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาต้องจ่าย กันลืมได้อีกด้วย
  - มีบันทึกย้อนหลัง เก็บข้อมูลว่าเราจ่ายไปกี่ครั้ง วันไหน เมื่อไหร่ ฯลฯ
  - รวมทุกๆข้อ เข้าด้วยกัน มันทำให้เราสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น  ชีวิตสบายขึ้นเยอะเลย

เตือนภัยคนใช้รีโมทรถยนต์ ก่อนที่จะถูกขโมยของ

รายการนาทีฉุกเฉินได้มีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้รีโมทรถยนต์ ที่เวลาเราใช้รีโมทรถยนต์ล็อกรถ จะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่ารถของเรานั่นล็อกแล้วจริงๆหรือป่าว ไม่เช่นนั้นแล้วทรัพย์สินที่อยู่ในรถอาจจะหายไปโดยไม่รู้ตัว การทำงานของโจรชั่ว จะอาศัยจังหวะที่เจ้าของกำลังจะใช้รีโมทรถยนต์ส่งสัญญาณรบกวนรีโมทของเจ้าของรถ ทำให้รถล็อกไม่ได้ ถ้าไม่ดูให้ดี จังหวะนี้โจรก็จะเปิดเอาทรัพย์สินในรถได้นั่นเอง ลองไปดูวิดีโอตัวนี้ครับ จะได้เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง

อยากติดตุ๊กตาแต่ไม่มีเสาอากาศ ทำยังไง

ปกติ VIOS TRD จะไม่มีเสาอากาศมาด้วย แต่ว่าอยากติดตุ๊กตา ตกแต่งให้สวยงาม เหมือนรุ่นอื่นๆ วันนี้แอดมินเลยหาข้อมูล เผื่ออยากจะตกแต่งน้องออสให้น่ารัก ๆ ก็ได้คำตอบมาฝากันเมื่อพบว่า มีเสาอากาศแบบแปะหลอก เอามาติดโก้ๆ แล้วก็ห้อยตุ๊กตาได้เหมือนชาวบ้านเขา ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการติดตั้งเสาอากาศแบบแปะหลอก และตุ๊กตาติดเสาอากาศรถยนต์ได้ที่บล็อกตุ๊กตาติดเสาอากาศรถยนต์ ครับ

จะมีบอกทั้งรายละเอียดต่างๆ การติดตั้งเสาอากาศ ราคาและยังมีตุ๊กตาให้เลือกซื้อด้วย ครับ

ข้อเตือนใจ เมื่อต้องเรียกใช้ประกันภัยรถยนต์

อุบัติเหตุ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด โดยเฉพาะอุบัติเหตุทางถนน ถึงแม้เราจะระมัดระวังขนาดไหน เราไม่ประมาท แต่คนอื่นประมาท ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ได้ 

เรื่องของเรื่องก็คือ น้องออสสุดรักสุดหวง เป็นลูกชายคันแรกด้วย ยังไม่ทันได้ป้ายก็ได้แผลซะแล้ว เมื่อไปโดนเฉี่ยวมา แล้วคู่กรณีก็หลบหนีไป โดยไม่เลียวแลลูกชายผมเลย ฮ่า  ๆ  พูดซะน่าสงสารเชียว

ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากที่โดนเฉี่ยน ผมก็เดินดูรอบคันเลย ว่าโดนตรงไหนบ้าง เห็นรอยแผลแล้ว ก็เจ็บแทนเลยทีเดียว แต่ยังโชคดีแค่เฉี่ยว ไม่เป็นอะไรมาก โทรให้ตำรวจสกัดให้ ก็อย่าหวัง 191 ไม่รับสายเลยครับ ตอนนั้นก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เลยโทรหาประกัน แล้วก็บอกไปว่า คู่กรณีหนีไปแล้ว กรณีนี้เลยต้องเสีย 1,000 เมื่อเคลมครับ แต่ถ้าเราบอกว่าขับเฉี่ยวกำแพง เฉี่ยวเสาบ้าน ก็คงจะไม่ต้องเสียซักบาท เลยเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ครับ ว่า ถ้ารอยไม่เป็นอะไรมาก ก็ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรน ก่อนเคลม เราก็บอกประกันว่า ขูดเสาบ้าน แบบนี้เวลาเคลมก็ไม่เสียซักบาท นั่นเอง

ไปกลับสกลนคร - ปราจีนบุรี

เป็นครั้งแรกกับการเดินทางไกลขนาดนี้ จากสกลนคร ถึงปราจีนบุรี เรื่องของเรืองคือ ผมต้องขับรถไปเองเพราะถูกเรียกสัมภาษณ์งานที่นิคมอุตสาหกรรม 304 ปราจีนบุรี เริ่มออกเดินทางประมาณ 8 โมงเช้านิดๆ กับน้ำมันเต็มถังที่เดิมไว้วันก่อน และวิ่งไปแล้วประมาณ 100 กิโลเมตร อากาศค่อนข้างไม่ค่อยจะดีเท่าๆหร่ เพราะขาลง ตรงกับช่วงที่พายุเข้าพอดี ฝนตกตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกจากบ้าน ขืนรอให้หยุดตก คงไม่ได้เดินทางกันพอดี เพราะท้องฟ้าไม่มีท่าทีที่จะหยุดเลยครับ จากบ้านถึงขอนแก่น ประมาณ 11 โมงเศษๆ ถือว่าช้ามาก เพราะขับเร็วไม่ได้ อันตรายจากถนนลื่น ผมแวะทำธุระที่ขอนแก่นประมาณชั่วโมงนึง ก่อนออกเดินทางต่อ มาถึงขอนแก่นก็เริ่มไม่มีฝนแระ แต่อากาศก็ยังครึ้มๆ เข้าโคราช ออกซ้ายมุ่งหน้าขึ้นเขาปัก ผ่านวังน้ำเขียว และมาถึงปราจีนบุรี ประมาณ 18.00 นาฬิกา พักที่ปราจีนสองวัน
วันที่เดินทางกลับมา เรียกได้ว่ายาวตลอดสาย ไม่ได้พักที่ไหน นอกจากโดนโบก เพราะยังไม่มีป้านทะเบียน ถึงบ้านก็ประมาณ 16.00 น. รวมเวลาเดินทาง แปดชั่วโมง ระยะทางเกือบ 500 กิโลเมตร เติมน้ำมันทั้งขาไป ขากลับ รวม สามพันกว่า เกือบสี่กับ แต่ก็ยังเหลือในถังให้วิ่งอีกนิดหน่อย

1 เดือน กับ 3 พันกว่ากิโลฯ

หลังจากที่ผ่านไป 1 เดือน กับระยะทางในการวิ่งนั้น ถือว่าเยอะมาก เพราะผมใช้งานรถทุกวันเลยทีเดียว และไม่ได้อัพเดทบล็อกหลายวัน คงไม่ว่ากันนะครับ (เพราะมัวแต่ขับรถอยู่นั่นเอง ฮ่า ๆ ๆ) วันนี้วันหยุด จอดรถไว้ที่บ้าน นั่งทำงาน ไปด้วยเลยมีเวลามานั่งอัพกันซักเล็กน้อย

วันนี้คงไม่เน้นวิชาการมาก ขอโพสต์บทความเบาๆ พูดคุยกัน เล่าประสบการณ์ การใช้งานรถ 1 เดือนที่ผ่านมา

วิ่งจนน้ำมันหมดถัง !! 

น้องออสส่งสัญญาณ ว่าน้ำมันหมดถังแล้ว แต่ว่าผมก็ยังฝืนขับต่อ ถ้านับจากตอนที่สัญญาณเตือนน้ำมันหมด เริ่มทำงาน ผมเคยวิ่งต่อไปได้ประมาณ 50 KM แต่ครั้งนี้ เกิดข้อผิดพลาด เพราะพ่อยืมรถไปขับ แป๊บเดียวเองนะครับ ผมไม่ได้กดมิเตอร์ไว้ซะด้วย เลยไม่รู้ว่าวิ่งไปไกลแค่ไหน และกะว่าจะไปเติมอยู่แล้วเชียว อีกประมาณ ไม่ถึง 100 เมตร น้องออสก็เริ่มงอแง ไม่วิ่งต่อ ดับตรงทางเข้าโลตัส สาขาสว่างแดนดิน เลยทีเดียว  ลำบากต้องไปซื้อน้ำมันใส่ขวดมาเติม  เป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดกับใครๆ 

     การเติมน้ำมันโดยไม่ได้เติมจากหัวจ่าย นั้นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดนะครับ แต่ครั้งนี้มันเกิดแอ๊กซิเดนจริงๆ เลยจำใจต้อง เติมพลังให้น้องออส ผ่านทางขวดซะเลย จากนั้นก็วิ่งต่อไปที่ปั๊มได้

เติมน้ำมันเต็มถัง กี่บาท ??

หลังจากที่ขับต่อมาถึงปั๊ม ผมก็สั่งเด็กปั๊ม เติมเต็มถังซะเลย ผมเติมแก๊สโซฮออล 95 เต็มถังรวมๆแล้วเป็นเงิน 1,800.- เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ค่าน้ำมันนี่มันแพงจริงๆ จ่ายค่างวด เจ็ดแปดพัน แต่จ่ายค่าน้ำมันไปหมื่นกว่าบาทแล้วครับเดือนนี้ แล้วแบบนี้ผมจะกล้าขับต่อไหมเนี๊ยะ

เทคนิคการประหยัดน้ำมันและยืดอายุรถ

-    

        -   ตรวจสภาพรถให้สมบูรณ์อยู่เสมอ

-       -    เติมลมยางให้ได้ตามค่ากำหนดและหมั่นตรวจสอบทุก 2 สัปดาห์

-        -   ตรวนสอบศูนย์ล้อให้ถูกต้องอยู่เสมอ ล้อไม่ได้ศูนย์ ยางจะสึกหรอเร็ว ทำให้เพิ่มภาระเครื่องยนต์และสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น

-       -    ไม่เร่งเครื่องอยู่กับที่ ไม่ติดเครื่องเดินเบาทิ้งไว้นานๆ

-       -    ใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็ว อย่าเปลี่ยนเกียร์สูงในรอบต่ำ และไม่เลี้ยงคลัตช์ หรือเบรก

-       -    ไม่บรรทุกสัมภาระ ที่ไม่จำเป็น หมั่นล้างท้องรถเพื่อกำจัดโคลนที่หนัก และก่อสนิม